Evangelion 3 0 1 01 Thrice Upon a Time 2021 อีวานเกเลียน 3 0 1 01 เดอะมูฟวี่ 2021 ดูหนัง เป็นภาคที่สี่ของอนิเมะชุด รีบิวด์ออฟอีวานเกเลียน ของผู้กำกับฮิเดอากิ อันโนะ และถือเป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์อีวานเกเลียนทั้งมวล หลังดำเนินเรื่องมาเป็นเวลากว่า 26 ปีตั้งแต่พ.ศ. 2537
ภายหลังรอคอยกันมากมายว่า 8 ปี ท้ายที่สุด “ภาคต่อ” ของ Rebuild of Evengelion ซึ่งจะเป็น “ภาคจบ” ของภาพยนตร์ซีรี่ส์นี้ ก็ได้ออกฉายแล้ว รวมทั้งสมการรอเนื่องจากทำรายได้อย่างถล่มทลายในญี่ปุ่นแม้ว่าจะเป็นช่วงที่เหตุการณ์เชื้อไวรัสระบาดจะยังไม่สงบดีนักก็ตามภาคต่อ และ ตอนจบ
ที่ใช้ชื่อว่า EVANGELION 3.0+1.0 Thrice upon a time ก็ได้ปรากฏชัดต่อสายตาแฟนๆและก็หนึ่งในคณะทำงานของ Akibatan ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ก็ได้รับดูภาพยนตร์ภาคนี้ตั้งแต่เข้าฉายวันแรกอย่างยิ่งจริงๆ จะเป็นอย่างไรนั้น ก็มารีวิวให้อ่านกันเรียกน้ำย่อยนะครับ (ไม่สปอยล์รายละเอียดข้อสำคัญ)
นี่บางทีก็อาจจะเป็นครั้งแรกของเอวานเกเลียนที่นำเสนอถึง “ความสบาย”เรื่องราวนั้นเดินเรื่องต่อจากภาค 3.0 เลย โดยเหตุนี้ขั้นต่ำๆที่สุดเป็นทุกคนจำเป็นต้องรู้รายละเอียดของ Rebuild of Evangelion ตั้งแต่ 1.0 มาจนกระทั่ง 3.0 ซะก่อน และก็มีอีกหลายๆส่วนที่อ้างอิง หรืออ้างอิงไปถึง
แล้วก็ The End of Evangelion ด้วย เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากการที่จะเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาอย่างสมบูรณ์แล้ว การจะเข้าถึงความรู้สึกทั้งปวงที่ผู้กำกับต้องการจะถ่ายทอดออกมา ก็ควรได้ผ่านเรื่องราวทั้งผองของฉบับอนิเมชั่นก่อนหน้านี้ทุกๆภาค ทุกๆเวอร์ชั่นนะครับรายละเอียดของภาคนี้เริ่มด้วยเรื่องตามคลิปโปรโมต 10 นาทีแรกของภาพยนตร์ ที่กรุ๊ปของพวกไม่ซาโตะ ออกปฏิบัติการชิงพื้นที่ๆปารีส
เพื่อทำปักเสาสีดำที่มีประสิทธิ์ภาพสำหรับการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สีแดงที่พังทลาย ให้กลับมามีสภาพปกติได้ รวมทั้งเก็บกู้เครื่องไม้เครื่องมือที่จะใช้กับเครื่องเอวานเกเลียน 02 ที่พังทลายพังในภาคที่แล้ว ให้กลับมาต่อสู้ได้อีกครั้ง ขณะที่พวกชินจิ อาสึกะ แล้วก็เรย์ ก็ยังคงเดินทางตะลอนในดินแดนที่พังทลาย แต่ว่าก็มี “กลุ่มชนกรุ๊ปหนึ่ง”
มาเจอแล้วก็ช่วยเหลือพวกเขาไว้ และฝูงชนเหล่านี้เอง ก็จะนำพาเรื่องราวที่สามารถช่วยตอบหลายๆเรื่องที่น่าสงสัยของภาค 3.0 ได้มากขึ้นในภาค 3.0 เป็นเรื่อง Timeskip ที่ผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้านหลังภาค 2.0 มาถึง 14 ปี โลกทั้งยังใบพังทลายกลายเป็นสีแดง และเกิดเรื่องราวมากไม่น้อยเลยทีเดียวที่ชวนมึนรวมทั้งเต็มไปด้วยคำถาม แต่สำหรับภาคนี้ (3.0+1.0)
จะพาเราไปดูมุมมองบนโลกสีแดงนี้ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และสิ่งที่ตัวเอกได้เผชิญพบเห็น จะสอนให้เหล่า “นักขับเครื่องเอวา” ได้รู้จะกับชีวิตอีกรูปแบบที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน แล้วก็สัมผัสได้ถึงการสื่อหัวใจเข้าหากันจุดนี้จะตรงข้ามกับที่ผ่านๆมา
ที่เรื่องราวพร่ำบอกเราแต่ว่า “แนวความคิดตัวเม่น” ที่ถ้าเกิดเข้าพบกันก็จะถูกหนามทิ่มแทงจนกระทั่งบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย แทนค่าการตั้งกำแพงที่คนสองคนจะเข้าถึงกันแล้วก็กันได้ภาคนี้กลับมุมทุกๆอย่างเป็นการ “เปิดใจเข้าพบกัน”อย่างเดียวที่จะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอคติที่ยึดมั่นมาอย่างยาวนาน
ถ้าหากจุดจบใน The End of Evangelion ได้บอกเราว่า จุดสิ้นสุดของทุกๆสิ่งทุกๆอย่างจะเกิดขึ้นเมื่อกำแพงที่จิตใจสลายไป ทุกประเภทจะหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้กระนั้นสิ่งนั้นจะสื่อความหมายอะไร ในเมื่อความทุกข์ทรมานก็ไม่มี ความสำราญก็ไม่กำเนิด และก็ชีวิตนั้นจะคงอยู่
เพื่อความมุ่งมั่นตั้งใจอะไร?
ภาคนี้เปรียบได้ดั่งการ “ไม่เห็นด้วย” สิ่งที่เคยเกิดมาก่อน แล้วก็นำพาเราไปสู่บริบทใหม่ๆของ Evangelion ว่าการสลายกำแพงจิตใจ โดยที่แม้ว่าพวกเรายังคงมีความทุกข์อยู่แค่ไหน แม้กระนั้นก็สามารถเจอหน้ากับมันได้อย่างเข้มแข็ง แม้พวกเราไม่ละทิ้งความสบายที่อยู่ใกล้ๆตัวเราที่เป็นดุจยาเพิ่มเติมพลังใจให้กับเราความสุขสำหรับบางบุคคล คือการได้เจอกับคนที่รักเขาและความสบายสำหรับบางคน ก็คือการได้มีอิสระ
Evangelion 3.0+1.0 มีแง่มุมต่อโลกและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ในทางบวกอย่างไม่น่าเชื่อด้วยเหตุว่าไม่เคยมี Evangelion ภาคไหนๆให้ความรู้สึกแบบงี้มาก่อนครับ บางทีก็อาจจะเป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้มองภาพยนตร์หัวข้อนี้จบแล้วรู้สึก “อิ่มเอิบ” ก็เป็นได้แล้วก็อ่านถึงตรงนี้ บางทีก็อาจจะงงมากว่า เฮ้ย นี้มันหนังโลกงามหรืออะไรหรือเปล่า
แล้วฉากแอคชั่นอันตื่นตาวิจิตรตระการตางานสร้างล่ะคืออะไร ส่วนนี้จำเป็นต้องกล่าวว่า ยังคงมีฉากต่อสู้ที่ตื่นตาไม่น่าผิดหวังขอรับ เราจะได้เห็นทั้งยังแมคคานิคที่แปลกตา และการสาดกระสุนกันดุเด็ดเผ็ดมัน รวมทั้งไฮไลท์ที่จะต้องขอบอกใบ้ว่า ยานวุนเดอร์ของไม่ซาโตะนั้น ก็มีฉากสู้รบกลางเวหาที่น่าประทับใจหลายฉากเลย
ซึ่งมีบางซีนเชิญรู้สึกถึงความวิกลจริตพลังระดับกุเรนลากันน์ แล้วก็บางตอนก็มีกลิ่นอายของอนิเมชั่นไซไฟอวกาศสมัย 80-90 มากมายแต่จุดหนึ่งที่นักเขียนก็ไม่มั่นใจว่าเป็นการเจตนาหรือเป็นข้อเสีย
ก็คือในช่วงท้ายหัวข้อนั้น มีหลายฉากที่ภาพเปลี่ยนเป็นลายสเก็ตช์ขาวดำบนกระดาษ ที่บางฉากเป็นงานวาดหยาบๆขึ้นฉายบนจอพร้อมด้วยเสียงบรรยาย ที่ชี้แจงได้ยากว่านี่เป็นการเผางานหรือการเจตนาสื่อความหมายบางสิ่งบางอย่างเสริมเติมรวมทั้งภาพยนตร์ประเด็นนี้มีความยาวสูงถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวและเนื้อหา ที่ซึ่งพูดได้ว่ามันควรเป็น เรื่องเดียวกับภาค 3.0 เลยนะครับ
เราจะมีความเห็นว่าเนื้อเรื่องนั้นมีสั้นหน่อยเดียว ซึ่งนั่นก็ไม่แปลก เพราะว่าส่วนที่เหลือของมันคือเนื้อหาทั้งหมดของ 3.0+1.0 นี้เอง ถึงกระนั้น หลายๆอย่างที่เรื่องราวเคยเสนอคำถามไว้ ก็มีเพียงแค่บางเรื่องแค่นั้นที่ตอบเรา แต่ว่าบางเรื่องก็ถูกปล่อยผ่านไปเช่นเดียวกันกับเป็นเพียงแต่การตั้งข้อซักถามลอยๆให้ผู้ชมไปปะติดปะต่อกันเอาเองและก็สุดท้ายภาคนี้เป็นตอน “อวสาน” จริงๆหรือไม่
“ใช่ครับ”ฉะนั้น ความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกที่เราได้รับจากเอวานเกเลียนภาคนี้ ประเด็นทางบวกที่ทำให้พวกเราอิ่มอกอิ่มใจ อาจเป็นส่งท้ายที่ผู้สร้างต้องการที่จะให้แฟนๆที่ติดตามกันมานานกว่า 25 ปี ตั้งแต่แมื่อซีรี่ส์แรก ได้ร่วมปิดฉากเรื่องราวนี้ลงอย่างไม่ติดค้างในความรู้สึกก็เป็นไปได้
ดูหนัง หนังอัพเดทใหม่ หนังออนไลน์HD หนังการ์ตูน หนังอนิเมะ หนังNetflix ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์ฝรั่ง ซีรี่ย์เกาหลี มาใหม่ทุกวัน มีทั้ง หนังบู๊ หนัง2023 หนังเก่า ดูหนังตลก หนังชีวิตจริง หนังสยองขวัญ หนังลึกลับ เพลงคอนเสิร์ต ดูหนังกีฬา หนังสงคราม หนังคาวบายตะวันตก ดูหนังสยองขวัญ มีหนังพากย์ไทย ทั้งหนังซับไทย บรรยายไทย หนังซุปเปอร์ฮีโร่ หนัง MARVEL DC หนังแอคชั่น หนังอนิเมชั่น หนังการ์ตูนอนิเมะ ดูหนังฟรีไม่มีสะดุด หนังไม่มีโฆษณากวนใจ หนังชนโรง หนัง Netflix และเว็บไซต์ดูหนังออนไลน์นี้ ยังอัพเดทหนังใหม่ตลอด ดูหนังฟรี ดูหนังไม่เสียค่าใช้จ่าย